ข้อดีของผลไม้แช่แข็งที่คนรักสุขภาพต้องรู้!!
คนรักสุขภาพก็มักจะชอบนำเอาผักและผลไม้มาทำเป็นสมูธตี้ดื่มทานเพื่อดีท็อกซ์กันใช่มั้ยละคะ? แต่เคยเจอปัญหาไหมว่าซื้อมาเยอะเกินไปแล้วก็กินไม่หมด ที่จริงแล้วปัญหานี้แก้ได้ง่ายมากๆ แค่นำเอาผักและผลไม้ที่เหลือเข้าตู้แช่แข็งเท่านั้นเอง อยากทานเมื่อไหร่ก็เอาออกมาทานได้ง่ายๆ เพียงเท่านี้เพื่อนๆก็จะได้รับสารอาหารที่ดีต่อความงาม โดยไม่ต้องเหลืออะไรทิ้งให้เสียดายอีกแล้ว
ทานแบบสดใหม่ กับทานแบบแช่แข็งอันไหนดีกว่ากัน?
จริงอยู่ว่าการรับประทานผักและผลไม้สดๆจะให้ผลดีมากกว่า แต่ก็ไม่ใช่กับทุกกรณีนะ วิธีที่ดีที่สุดในการรับประทานผักและผักไม้เพื่อให้ได้วิตามินและแร่ธาตุที่ดีต่อสุขภาพอย่างเต็มที่ก็คือ การเก็บทานสดๆจากไร่ แต่กว่าผักและผลไม้เหล่านั้นจะถูกนำมาออกขายตามซุปเปอร์มาร์เก็ตก็ต้องใช้เวลาสักพักหนึ่ง แล้วการเลือกว่าอันไหนดีหรือไม่ดีนั้น ก็ต้องดูจากสภาพและสถานที่ที่ได้รับการจำหน่ายด้วย
คุณค่าทางสารอาหารของผลไม้แช่แข็งจะดีกว่าการแช่ในตู้เย็นแบบธรรมดา เหตุผลประการแรกก็คือ การแช่แข็งผักและผลไม้จะเป็นการเก็บรักษาผักและผลไม้ให้อยู่ในสภาพที่มีคุณค่าทางสารอาหารมากที่สุด เหตุผลถัดมาก็คือ จากการค้นคว้าพบว่าจะช่วยเพิ่มวิตามินและคุณสมบัติการต้านอนุมูลอิสระให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
เคล็ดลับการแช่แข็ง
ก่อนที่จะทำการแช่แข็งผลไม้ เช่น สตรอเบอร์รี่, ราสเบอร์รี่, บลูเบอร์รี่ ให้นำผลไม้ดังกล่าวมาล้างด้วยน้ำสะอาดเสียก่อน หลังจากนั้นให้สะเด็ดน้ำออกให้หมด แล้วนำเข้าช่องแช่แข็ง สำหรับผลไม้ที่มีเปลือกอย่างเช่น กล้วย ให้ปลอกเปลือกออกให้หมดก่อนแล้วค่อยนำเข้าช่องแช่แข็ง และควรนำออกมาทำเป็นสมูธตี้ดื่มทันทีหลังจากเอาออกจากช่องแช่แข็งแล้ว วิธีการแช่แข็งผลไม้นี้สามารถใช้ได้กับ มะม่วงหรือองุ่น เป็นต้นด้วยเช่นกัน
วิธีการละลายน้ำแข็ง
หากเพื่อนๆจะนำเอาผักและผลไม้ที่แช่แข็งไว้มาทำเป็นสมูธตี้ดื่มละก็ สามารถนำเอาผลไม้แช่แข็งมาผสมกับนมแล้วปั่นดื่มได้เลย หรือหากอยากทานสดๆก็สามารถละลายน้ำแข็งได้โดยการปล่อยทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้องเป็นเวลาประมาณ 30 นาที
เก็บรักษาได้นานเท่าไร
จริงอยู่ว่าการแช่แข็งจะไม่ได้ทำให้สามารถเก็บรักษาผักและผลไม้ไว้ได้ตลอดไป ทางที่ดีเราแนะนำว่าให้รีบทานภายใน 6 เดือนนับตั้งแต่วันที่เริ่มแช่แข็งจะดีกว่านะจ๊ะ
ที่มา : godmake