อยากลดความอ้วนใจจะขาด แต่เลิกพฤติกรรมเหล่านี้ไม่ได้ ก็หยุดฝันได้แล้ว!!
“ความอ้วน” ไม่ว่าใครก็คงไม่ต้องการ นอกจากจะอึดอัดแล้ว ยังเสี่ยงต่อสารพัดโรค ทั้งเบาหวาน ความดัน โรคอ้วน แถมต้องทนกับสายตาเหยียดๆ จากคนรอบข้างที่อาจจะมองว่าคุณไม่เอาใจใส่ดูแลตัวเอง ปล่อยปละละเลยจนเสียทั้งสุขภาพและบุคลิกภาพ ถ้าถามว่าอยากลดน้ำหนักไหม เชื่อว่าหลายคนตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า “อยากลด” ใจจะขาดแต่ทำไมมันทำยากเหลือเกิน
ลองมาสำรวจตัวเองกันดีกว่าว่า เพราะอะไรจึงไม่ประสบความสำเร็จกับการลดน้ำหนัก
1. เสียดาย
“กินไม่หมดเหรอ? ทำไมไม่กิน? เอามาฉันกินเอง เสียดายของ” พฤติกรรมแบบนี้ใช่คุณรึเปล่า ถ้าใช่ ก็เลิกเสียเถอะ เพราะนี่คือหนึ่งในสาเหตุทำให้คุณกินอาหารเกินกว่าร่างกายต้องการ อยากหุ่นดีกินพออิ่มก็พอ
2. กลัวหิว
เห็นอาหารน่ากินละลานตา สมองสั่งการเลยว่าควรซื้อกลับไปใส่ตู้เย็นไว้ดีกว่า เผื่อว่าเกิดรู้สึกหิวจะได้มีอะไรกิน แต่ถ้าทำแบบนี้จนติดเป็นนิสัย คุณไม่มีทางลดน้ำหนักหรือขจัดไขมันออกไปจากตัวได้ เพราะส่วนใหญ่ถ้ารู้ว่ามีของชอบอยู่ในตู้เย็นก็อดใจไม่ไหวสุดท้าย ก็จะจัดการเสียจนเกลี้ยงตู้ก่อนจะหิวจริงๆ ทุกที
3. กินจุบจิบทั้งวัน
อย่าคิดว่าอาหารบางชนิดกินแล้วไม่ทำให้อ้วน เพราะหากกินมากเกินปริมาณ ใครจะรู้ว่าร่างกายเราจะสามารถย่อยหรือเผาผลาญได้ทันหรือไม่ พฤติกรรมตามใจปาก หยุดกินไม่ได้ มีผลโดยตรงทำให้อ้วนง่าย เห็นผลเร็วมาก ทางที่ดีควรหักห้ามใจ ฝึกตัวเองให้กินเป็นเวลา อย่าหลงระเริงเพลิดเพลินไปกับการลิ้มรสจนมากเกินไป ควรกินให้อิ่มในมื้ออาหาร หากรู้สึกหิว หรืออยากกิน ให้แก้ด้วยการดื่มน้ำแทนและอย่าลืมลดปริมาณลงให้เหมาะสม
4. กินไม่ขยับ
สาวออฟฟิศดูจะน่าเป็นห่วงที่สุด เพราะเดี๋ยวนี้อากาศมันร้อนจนไม่อยากไปไหน ข้าวเช้าข้าวเที่ยงก็ห่อมานั่งกินกันที่โต๊ะทำงาน กินเสร็จก็นั่งแช่ แชทบ้าง คุยโทรศัพท์บ้าง วันทั้งวันร่างกายแทบไม่ได้ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวเท่าไหร่ เมื่อร่างกายไม่เกิดการเผาผลาญแล้วจะไม่ให้ไขมันสะสมได้อย่างไร
5. อดอาหาร
การอดจะยิ่งทำให้ลดความอ้วนได้ยากเพราะระบบภายในร่างกายจะรวน โดยเฉพาะจะเกิดผลกระทบร้ายแรงต่อระบบเผาผลาญ ระดับฮอร์โมนทั้งหลายเกิดการเปลี่ยนแปลง เรียกว่าเป็นส่วนเสริมกำลังให้การลดน้ำหนักของคุณเป็นไปได้ยากมากๆ เช่น อดใจไม่กินมื้อเย็น แต่สุดท้ายก็ไปตบะแตกตอนกลางคืนจนได้ แถมยังกินหนักกว่าเดิม หรือหากงดมื้อเช้าก็จะทำให้ร่างกายไม่มีพลังงานเพียงพอ จะรู้สึกเพลียตลอดทั้งวัน เลิกเถอะ เพราะวิธีนี้คุณจึงอ้วนอยู่นั่นเอง
6. ติดเครื่องดื่มแคลอรี่สูง
อยากกินอะไรหวานๆ เย็นๆ ประเภทน้ำอัดลม น้ำหวาน ชาไข่มุก น้ำผลไม้ ฯลฯ ยิ่งอากาศร้อน ต้องเบิ้ลกันหลายแก้วถึงจะชื่นใจ แต่รู้หรือไม่ว่าน้ำตาล + แคลอรี่สูงปรี๊ด กินแล้วอ้วนไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ควบคุมน้ำหนักทั้งปวง
7. โปรดปรานอาหาร Junk Food
หมายถึงอาหารที่ไม่ค่อยมีคุณค่าทางโภชนาการและให้พลังงานสูง เช่น เบอร์เกอร์ ไก่ทอด มันฝรั่งทอด ฮอทด็อก พิซซ่า โดนัท ฯลฯ หากติดใจในความอร่อยลิ้นก็ควรกินในปริมาณน้อย แต่หากต้องการมีสุขภาพที่ดี มีรูปร่างที่สมส่วน ก็ควรเลิกกินไปเลยดีที่สุด
8. เครียด
มีผลทำให้อ้วนขึ้นได้โดยเฉพาะหน้าท้อง เพราะภาวะเครียดร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล ยิ่งเครียดมากขึ้นเท่าไร ต่อมหมวกไตจะยิ่งเพิ่มการผลิตของคอร์ติซอล เพราะอย่างนี้ไขมันหน้าท้องจึงพอกพูนเป็นห่วงยาง รู้แบบนี้หาวิธีคลายเครียดด่วน
9. มองข้ามการเผาผลาญแคลอรี่
ทำมาแทบจะทุกวิธี ยกเว้นการเผาผลาญแคลอรี่คุณไม่มีทางลดน้ำหนักได้สำเร็จ เพราะการเผาผลาญคือการกำจัดส่วนเกินออกไป แค่ขยับก็เท่ากับเผาผลาญ การออกกำลังที่ถูกต้องจะช่วยเพิ่มอัตราเผาผลาญได้ราว 10 เปอร์เซ็นต์ รวมถึงการยกน้ำหนักก็เป็นการเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ ยิ่งคุณมีกล้ามเนื้อมากเท่าไรก็จะยิ่งเผาผลาญแคลอรี่ได้มากเท่านั้น
วิธีลดน้ำหนัก รูปร่างเปลี่ยนได้ด้วยการปรับพฤติกรรมประจำวัน โดยเริ่มที่ตัวเองต้องตั้งใจจริงซึ่งทำได้ไม่ยาก
การกินอาหารเพื่อให้รูปร่างสมส่วนนั้นมีอยู่หลายวิธี แต่ที่สำคัญจริงๆ คือกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ และควรทานในปริมาณที่เหมาะสมไม่ควรอดอาหารเด็ดขาด พักผ่อนให้เพียงพอ ถ้านอนไม่พอแม้จะรู้สึกบันเทิงเริงใจแค่ไหน แต่ร่างกายจะคิดว่ากำลังเครียดและหลั่งคอร์ติซอลออกมาในปริมาณสูง ซึ่งส่งเสริมการสะสมไขมันที่หน้าท้อง และนั่นอาจทำให้เสี่ยงต่อสุขภาพ
และชวนอ่านบทความล่าสุดจาก cliona: วิธีเอาใจคุณผู้ชายด้วยเรื่องบนเตียง รับรองว่าชีวิตคู่ของคุณจะราบรื่นยาวนาน!
ขอบคุณบทความจาก : slimup